วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

สิ่งที่น่าสนใจระหว่างธุรกิจขายตรงกับประเทศพม่า

ภาพจาก  www.oknation.net/blog/print.php?id=724067
     ขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนไป วาระต่างๆแปรเปลี่ยนไปตามเวลา อะไรที่ยังคงเดิมก็ยากที่จะยืนอยู่อย่างมั่นคง
     กระแสของประชาคมอาเซียนหรือ AEC ถูกพูดถึงในวงกว้าง แทบทุกวงการหนีไม่พ้นเรื่องนี้ ประเทศต่างๆในอาเซียนต่างตื่นตัวไม่เว้นแม้แต่บางประเทศที่เคยถูกคว่ำบาตรจากอเมริกาและยุโรปหรือเคยปิดประเทศอย่างพม่าก็เกิดการปรับตัวไปในทิศทางที่ดี จนเป็นที่น่าสนใจต่อนักลงทุนและนักธุรกิจที่จะเข้าไปขยายธุรกิจในพม่า
จนมีคำกล่าวในวงการสื่อว่า "พม่ากำลังเนื้อหอม"
   มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับพม่าที่เกี่ยวข้องกับการทำขายตรงอาเซียนมานำเสนอทุกๆท่านเผื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจไปขยายธุรกิจที่พม่า ดังนี้
   - กฎหมายด้านการลงทุนของพม่าเริ่มชัดเจนขึ้น โดยข้อมูลยืนยันคือ คำกล่าวปราศรัยเกี่ยวกับแผนพัฒนาแห่งชาติ 5 ปีนับจากปี 2011-2012 โดยวางศูนย์กลางการพัฒนาอยู่ที่เศรษฐกิจ โดยให้ความสำคัญในเรื่องของการค้าและการลงทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนด้านเทคโนโลยี
  - กรรมการผู้จัดการใหญ่เครือสหพัฒน์ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการลงทุนในพม่าได้น่าสนใจ โดยสรุป คือ กฎหมายด้านการลงทุนที่ชัดเจนขึ้น จะดึงการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในพม่าได้มากขึ้น และในส่วนของการดึงคนระดับท้องถิ่นมาเป็นคู่ค้า ธุรกิจขายตรงในพม่า จะเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งสินค้าที่คนพม่านิยมกันจะอยู่ในหมวดหมู่เครื่องอุปโภค บริโภค รวมถึงความงาม
 - จุดเด่นของประเทศพม่าที่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่น่าสนใจของอาเวยน คือ
      @ พม่ามีพื้นที่ติดกับอินเดียและจีนและที่สำคัญคือชายแดนพม่าติดกับชายแดนประเทศไทยรวมแล้วนับ 10 จังหวัด ซึ่งเป็นความได้เปรียบเชิงภูิมศาสตร์ที่จะขยายเศรษฐกิจให้กว้างออกไป
     @ แหล่งทรัพยากรของพม่ายังมีมากและยังไม่ถูกนำมาใช้ เช่น ป่าไม้/ก๊าซธรรมชาติ
     @ ประชากรพม่ามีใกล้เคียงกับไทยคือ ประมาณ 60 ล้านคนมีแรงงานกว่า 30 ล้านคนซึ่งเป็นแรงงานคุณภาพดีและราคาถูก
    @ อัตรการแลกเปลี่ยนเงินของพม่าเมื่อก่อนเป็นแบบหลายอัตรา 6 จ๊าด =  1 US$ แต่พอปรับเปลี่ยนเป็นระบบลอยตัว อัตราจะเป็น 800 จ๊าด = 1 US$ นับว่ามีความยืดหยุ่นสูง
 -  เรื่องน่ารู้เกี่ยกับผู้บริโภคพม่า
    @ ผู้บริโภคพม่ามีความฉลาด เรียนรู้ไว รักในศักดิ์ศรีตนเองอย่างมาก แถมยังมีความกระตือรือร้นสูงเพราะอยู่ใต้การปกครองแบบทหาร
   @ ผู้บริโภคมี 2 ประเภท คือ คนรวย เป็นส่วนน้อยของประเทศ มีกำลังมากพอที่จะซื้อสินค้าแบรนด์แนม หรือสินค้าฟุ่มเฟือย เช่น เครื่องสำอาง ซึ่งสามารถซื้อได้มากกว่าคนรวยในประเทศไทย อีกประเภทหนึ่งคือคนจน เป็นคนส่วนใหญ่ในประเทศ หาเช้า กินค่ำ ประหยัดค่าใช้จ่ายมาก ทานข้าวเป็นหลักและทานเยอะมาก (ทานลักษณะพูนจาน) กับข้าว 1 ถุงทานได้ 2 มื้อ
    @ อาหารหลักต้องมีส่วนประกอบด้วย "น้ำมันพืช" หากไม่มีอะไรจะทานจริงๆจะใช้น้ำมันพืชคลุกข้าวแล้วโรยด้วยผงชูรส
     @ ส่วนใหญ่ประชากรพม่าชอบเคี้ยวหมาก
     @ มักห่อข้าวใส่ปิ่นโตไปรับประทานที่ทำงาน
     @ คนพม่ามีทัศนคติที่ดีต่อสินค้าไทย มองสินค้าไทยเป็นสินค้าเกรดอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น ผงชูรสจากเมืองไทย มักถูกจัดวางไว้บนชั้นวางเฉพาะ คนที่ต้องการและทราบจริงๆจึงจะถามหา บวกกับอิทธิพลจากคนที่ทำงานในเมืองไทยและกลับไปบอกต่อที่บ้าน รวมถึงสื่อโทรทัศน์จากเมืองไทย จึงทำให้คนพม่ามองสินค้าไทยในแง่ดีมากๆ ถึงแม้ว่าสินค้าไทยจะแพงกว่าสินค้าพม่า 0..5-1 เท่า คนพม่าก็ยอมจ่ายแพงกว่าเพื่อซื้อสินค้าไทย
     นี้คือข้อมูลที่ผมรวบรวมมาจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ผมหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการทำขายตรงอาเซียน ในประเทศพม่าได้เป็นอย่างดี
    อย่าลืมนะครับว่า รู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้งชนะ 100 ครั้ง
    มีข้อมูลดีๆแบ่งปันกันได้ครับ

 รวบรวม/เรียบเรียงโดย ภาสกร  ผุยพงษ์(โทนี่)

ขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆจาก
- www.nationchanel.com
- thai.cri.cn
-e-jounal.dip.go.th
- บทความจาก กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 2 พค. 55 โดยดร.กอบศักดิ์  ภูตระกูล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น