วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เจาะตลาดขายตรงอาเซียน : เตรียมคนให้พร้อมก่อนอื่นใด

เจาะตลาดขายตรงอาเซียน : เตรียมคนให้พร้อมก่อนอื่นใด

หากเราจะจำกัดตัวเองในพื้นที่แคบๆในบ้านของคุณ แต่ท้ายที่สุดข้างบ้านก็กดดันให้คุณออกมาสู่โลกที่กว้างขึ้นแบบที่คุณปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี
เปรียบแล้วก็เหมือนกับตลาดขายตรงที่เรามองแค่ในเมืองไทย ทำอยู่ในเมืองไทย ท้ายที่สุดแล้วคนต่างประเทศที่มาทำงานในเมืองไทยก็พาคุณออกไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี โดยเฉพาะเรื่องของธุรกิจเครือข่ายขายตรงที่ไร้ขีดจำกัดแบบนี้ จากตลาดเมืองไทย ถึงเวลาแล้วที่เราต้องยกระดับสู่ขายตรงอาเซียน
ตลาดขายตรงอาเซียนมีความหลากหลายสูง บางคนที่มองว่ายาก แท้ที่จริงเป็นความท้าทายใหม่ที่มีตลาดกว่า 600 คนรออยู่ หากเรามองลึกไปถึงกลุ่มตลาดขายตรงใหม่ อย่างลาว เวียดนาม กัมพูชา และพม่า เป็นตลาดที่น่าสนใจ แต่เราควรจะศึกษาเรื่อง วัฒนธรรม ระบบเศรษฐกิจ การเมือง โครงสร้าพื้นฐานถนนหนทาง สาธารณูปโภค กฎหมาย รวมถึง ความรู้ความเข้าใจในเรื่องธุรกิจขายตรงของคนในประเทศนั้นๆ อย่างหลังนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญมากๆครับ เพราะ "คน" คือสิ่งสำคัญกว่าอื่นใด หากคนพร้อมก่อนย่อมมีชัยไปกว่า 99.99 %
การเตรียมคนเรามาเริ่มจากมามองที่ตัวเรา องค์กรของเราเองก่อน อย่างน้อยเราต้องมีคนที่เก่งภาษา ประสานงานกับคนในประเทศต่างๆในอาเซียนได้ เราต้องใช้กระบวนการเทรนนิ่งให้เกิดประโยชน์สุดๆ เตรียมตั้งแต่กระบวนการคิด ทำธุรกิจขายตรงอาเซียนอย่างถูกทาง ถูกวิธีเตรียมกลุ่มผู้นำให้พร้อมก่อนจะส่งสนามไปทำตลาดขายตรงระดับอาเซียนต่อไป

คนคือทรัพยากรที่มีค่า เป็นสินทรัพย์ที่ไร้ขีดจำกัด หากท่านยังคิดว่า เงินทุนส่วนใหญ่ของท่านไปทุ่มเทให้กับฮาร์แวร์มากเกินไป ให้ท่านทบทวนอีกครั้งก่อนเปิดประตูสู่ขายตรงอาเซียนต่อไป

เขียนโดย
ภาสกร  ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค

วันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2556

Think Asean Act Localy คิดแบบอาเซียน ทำอย่างเข้าใจพื้นที่

ก่อนเริ่มต้นต่ออจิ๊กซอร์ชิ้นแรก เราเห็นภาพของจิ๊กซอร์ทั้งหมดหรือยัง ?
    การจะลงมือทำงานอะไรก็แล้วแต่โดยเฉพาะการทำงานที่เป็นลักษณะโครงการใหญ่เราต้องมองให้กว้างให้เห็นภาพรวมของงานทั้งหมดก่อน เพื่อให้เห็นขอบเขตและความเป็นไปได้ของงาน จากนั้นจึงจะเริ่มวางแผนการดำเนินการตามมา และลงมือทำจนประสบความสำเร็จ
    การยกระดับขายตรงไทยไปสู่อาเซียนก็เช่นเดียวกัน ย่อมต้องมีการพิจารณาให้เห็นภาพใหญ่ของอาเซียนที่เกี่ยวโยงไปถึงประชากรกว่า 600 คน ซึ่งมีความแตกต่างด้านวิถีชีวิต วัฒนธรรม การเมืองและเศรษฐกิจที่หลากหลาย เพราะฉะนั้นกระบวนการคิดแบบ "ตัดชุดไซต์เดียวใส่กันทั้งบ้าน" ย่อมจะใช้ไม่ได้ในการนำมาวางแผนบุกตลาดขายตรงอาเซียนอีกต่อไป
    สิ่งสำคัญของการเริ่มต้นเปิดตลาดขายตรงสู่อาเซียน คือ การศึกษาหาข้อมูลในพื้นที่10ประเทศอาเซี่ยนทุกแง่มุม ท่านอาจจะต้องลงไปกินไปอยู่ใช่ชีวิตแบบคนประเทศนั้นๆสักพัก (ถ้าเป็นไปได้) จากนั้นจึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และนำมาวางแผนที่มีความเฉพาะกับคนในพื้นที่นั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น การใช้สื่อโฆษณา บางสื่ออาจจะใช้ได้ดีมากๆกับอีกประเทศหนึ่งแต่อีกประเทศหนึ่งอาจไม่ได้ผลเลยก็เป็นได้
    หาท่านมองเห็นภาพแห่งขายตรงอาเซียนได้มากพอ ลึกพอ รอบด้านพอ แล้วลงมือทำในระดับท้องถิ่นของประทศต่างๆในอาเซียนได้ ผมเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถกุมหัวใจ ผู้มุ่งหวังชาวอาเซียนเข้าสู่เครือข่ายขายตรงอาเซียนของเราได้แน่นอนครับ

Think ASEAN Act Localy
คิดแบบอาเซียนทำแบบเข้าถึงพื้นที่

เขียนโดย
ภาสกร ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการ  บจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ขายตรงอาเซียน.....พื้นที่แห่งการให้เกียรติกัน

          โลกนี้อยู่ได้ยั่งยืนยาวนาน เพราะการมองเห็นคุณค่าของความแตกต่าง เพราะฉะนั้นเราจึงต้องให้เกียรติกัน เพราะเรา คือ มนุษย์ที่ปรารถนาจะมีชีวิตที่ดีกว่าเหมือนๆกัน
      ผมนึกถึงเพลง imagin ของหนึ่งในสมาชิกวงดังระดับโลก The beatles จอหน์ เลนอน ในเนื้อเพลงเจือความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่มองเห็นถึงโลกที่เป็นหนึ่งไม่แบ่งแยก คงจะดีไม่น้อยถ้าทุกคนได้เข้าถึงความสุขอย่างเท่าเทียมกัน
       หันกลับมาว่าเรื่องของเรา เกี่ยวกับขายตรงอาเซียน 
       ผมเริ่มมองเห็นข้อดีของธุรกิจเครือข่ายขายตรงอีกในแง่มุมหนึ่ง คือ การใช้ธุรกิจเครือข่ายขายตรงเป็นสะพานเชื่อมโยงประเทศต่างๆในระดับอาเซียนเข้าเป็นหนึ่งเดียวกัน และธุรกิจขายตรงในระดับอาเซียนสามารถไปได้ไกลกว่าที่คิด ผมหมายถึงในระดับเชิงลึก คือ ขายตรงอาเซียนจะสามารถเปิดโอกาสให้ระดับรากหญ้าของคนในประเทศอาเซียน เข้าถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจและสร้างตนเองเป็นเศรษฐีมีชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์
       ข้อสังเกตจากการลงพื้นที่ ในธุรกิจที่ผมทำอยู่และได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนกับผู้มีประสบการณ์หลายคน แสดงให้เห็นว่า ระดับรากหญ้าของคนในอาเซียนรวมถึงระดับคนมีกินมีใช้ หันมาสนใจธุรกิจขายตรงอย่างมาก นึกถึงตอนย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ธุรกิจขายตรงเข้ามาเมืองไทยใหม่ๆ แต่ความแตกต่างที่เห็น คือ ประเทศอาเซียนอื่นๆเขาตื่นเต้นกับขายตรงอาเซียนได้มากกว่าคนไทย ( ตามความคิดเห็นและรู้สึกของผู้เขียนนะครับ) ยังแอบกังวลใจลึกๆว่า อีกสองปีข้างหน้าเปิดอาเซียนอย่างเป็นทางการ คนในแถบอาเซียนจะแย่งกันวิ่งเข้ามสปอนเซอร์ หรือ ชวนคนไทยไปทำขายตรงกันอย่างสนุกสนานเลยทีเดียว ยังไงเราเองก็ต้องเตรียมให้พร้อมกับเรื่องแบบนี้นะครับ
      ปัจจัยที่จะส่งเสริมการทำขายตรงอาเซียนให้ประสบความสำเร็จ นอกจากเรื่องความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจแล้ว มีอีกเรื่องหนึ่งที่มักไม่ค่อยพูดถึง คือ เรื่องของวัฒนธรรม ผมเชื่อมั่นว่าประเทศในระดับอาเซียนทุกประเทศต่างมีประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม ที่ทุกคนหวงแหนและอยากแสดงให้ประเทศอื่นๆรับรู้ ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ขายตรงระดับอาเซียนเจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืนได้ คือ การเรียนรู้วัฒนธรรมประเทศอื่นๆในอาเซียนและชื่นชมคุณค่า รวมถึงปรับตัวให้เข้ากับวัฒธรรมประเทศอื่นๆในกรณีที่เข้าไปขยายธุรกิจขายตรงในประเทศอื่นๆ
    สิ่งที่ผมกำลังพูดถึง คือ เรื่องของการให้เกียรติกับสังคมอื่นๆ การให้เกียรติแสดงออกได้หลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการนอบน้อมถ่อมตน ไปอยู่ในบ้านเรือนเขาต้องยอมเราว่าเรา ไม่ได้รู้อะไรทุกอย่าง ต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติม หรือ การให้เกียรติในรูปแบบของการไม่ดูถูกคนในประเทศอื่นๆ แม้จะอยู่ในระดับรากหญ้าแต่ถ้าสนใจขายตรง เขาเองมีความมุ่งมั่นตั้งใจมากพอก็สามารถที่จะพัฒนาตนเองสู่คนที่มีเงินและชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นได้

จงเชื่อมั่น จงให้เกียรติกัน จงสร้างสรรค์ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อความยั่งยืนของขายตรงอาเซียนต่อไป

เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองประธานกรรมการ บจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค
     

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

จากไทยแลนด์สู่อาเซียน...ลู่วิ่งที่เปลี่ยนไป

           ขณะที่เราสบายใจกับความเคยชินเดิมๆ ก็เปรียบเหมือนกบที่อยู่ในหม้อต้มน้ำที่ ค่อยๆเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง จนท้ายที่สุด น้ำก็เดือดจนเกินกว่าที่เราจะกระโดดออกจากหม้อน้ำทัน

     เชื่อว่าทุกคนรักสบาย ไม่ชอบลำบาก แต่เชื่อเถอะครับว่าทุกอย่างไม่มีอะไรได้มาฟรี ขึ้นชื่อว่า อยากสบาย เราก็ต้องแลกกับอะไรบางอย่างมาเหมือนกัน

      ผมเริ่มเป็นกังวลใจกับอะไรหลายๆ อย่าง เมื่อไืด้ศึกษาเกี่ยวกับประชากรอาเซี่ยนในประเทศต่างๆถึงความได้เปรียบเสียเปรียบในหลายๆด้าน เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรในประเทศไทย หลายๆอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะความกระตือรือร้นในเรื่องการเตรียมพร้อมที่จะรับการเปิดอาเซียน

       นักขายตรงอาเซียนอย่างเราๆ ท่านๆ เองก็ต้องรีบตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้มากๆ เปรียบให้เห็นภาพชัดเจน คือ ขณะที่เราดำเนินธุรกิจขายตรงในเมืองไทย เรามองที่ประชากร 60-70 ล้านคน เปรียบว่า เราวิ่งในลู่วิ่งเล็กๆ คู่แข็งก็มีแต่พวกเราเอง ซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างเยอะและหลากหลายรูปแบบ บางครั้งเราเองก็แทบกระอักเลือดกับกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบทั้งวิชาเทพและวิชามารจากบริษัทขายตรงต่างๆ แต่หากเรามองให้กว้างเป็นระดับอาเซียน นั่นคือการขยายลู่วิ่ง ยกระดับไปเจอกับกลุ่มตลาดและคู่แข่งระดับ 600 ล่้านคน ลองจินตนาการต่อครับว่าเราจะเจออะไรบ้าง? 
 
      ภาพที่เราประเมินได้ไม่ยาก เมื่อวงการขายตรงในไทยยกระดับไปสู่อาเซียน เราจะได้พบกับการเคลื่อนย้ายฐานสมาชิกธุรกิจขายตรง โดยการสปอนเซอร์ชนิดไร้พรมแดน หนึ่งท่านอาจจะมีสมาชิกใต้สายงาน เป็นประชากรในประเทศอาเซี่ยนทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งบริษัทขายตรงหลายบริษัทในเมืองไทย ก็ได้ดำเนินการจัดการเรื่องนี้ไว้พร้อมแล้ว โดยมักได้ยินบ่อยๆในทำนองที่ว่า "เปิดหนึ่งรหัส สปอนเซอร์ได้ทั้งอาเซี่ยน หรือทั้งโลก"
   
     สิ่งที่ผมทิ้งท้ายไว้ในช่วงแรกๆ คือ ความกังวลของผม ซึ่งจะพูดให้ชัด คือ อีกสองปีข้างหน้า อาเซียนเปิด ดูคล้ายกับว่า ประเทศทั้้ง10 ในอาเซี่ยนถูกปล่อยให้ออกวิ่งพร้อมกัน ทันทีที่ได้ยิงเสียงปืนปล่อยตัว แต่ละประเทศต้องวิ่งพร้อมกันแต่แรงผลักดันภายในและการเตรียมพร้อมไม่เท่ากัน สิ่งที่ผมสังเกตเห็น คือ การทำธุรกิจขายตรงในประเทศอาเซี่ยนอื่นๆยกเว้นเมืองไทย ถือว่าเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับเขา และความสดใหม่ของขายตรงย่อมมีในมากกว่าเมืองไทย ฉะนั้น ประเทศอื่นๆย่อมออกวิ่งแบบสุดแรงเกิดได้มากกว่า 

    อาจจะดูเหมือนว่าผมมองโลกในแง่ร้ายจนเกินไป แต่ก็ต้องระวังเรื่องพวกนี้ไว้ครับ พูดเช่นนี้แล้วว่า มิใช่จะไม่มีทางออกนำเสนอนะครับ มีแน่นอนครับ ทางออกของเรา คือ ต้องเตรียมตัวให้พร้อมๆๆๆๆๆๆๆอย่างเดียวครับ อยากรู้ว่าจะเตรียมให้พร้อมอย่างไร ให้ตามกลับไปดูบทความเก่าๆใน blog นี้ได้ครับ


เขียนโดย
ภาสกร. ผุยพงษ์
รองกรรมการผู้จัดการบจก.ริชไทมเน็ตเวิร์ค
       

วันอาทิตย์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

3 ขากล้าท้าโลก ความท้าทายของขายตรงระดับอาเซียน

ภาพจาก www.naiin.com

      พักหลังๆนี้มีโอกาสได้อ่านหนังสือมากขึ้น ก่อนหน้านี้ละเลยจุดนี้ไป  สมองเหมือนขาดวัตถุดิบอะไรบางอย่าง คิดอะไรไม่ค่อยออก ตอนนี้เริ่มดีขึ้น 
      ช่วงนี้มีหนังสือเกี่ยวกับอาเซียนหรือ AEC ออกมาเยอะมากผมตะเวนไปตามแผงหนังสือ หยิบมาเปิดดูผ่านๆก็จะออกแนววิชาสัมคม ภูมิศาสตร์ไปอย่างงั้นไม่มีอะไรน่าสนใจจนมาจะเอ๋กับเล่มนี้ Think Asean โดยปรมจารย์ด้านการตลาดระดับโลก ฟิลิป คอทเลอร์ ว้าวๆๆๆๆ เจอเข้าให้แล้ว เล่มนี้นี่เองงงง
เนื้อหาเป็นการวิเคราะห์วิถีอาเซียนกับการแข่งขันระดับโลกได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีกรณีศึกษาของแบรนด์ระดับท้องถิ่นที่ตีตลาดระดับโลกได้ น่าสนใจทีเดียว
      มีจุดเน้นที่ผมสนใจที่จะสามารถนำมากล่าวถึงในblog ขายตรงอาเซียนนี้ คือ หัวใจสำคัญของการแข่งขันระดับอาเซียนไปยังระดับโลกได้ คือ เรื่องของ "การเปลี่ยนแปลง" และ 3 ปัจจัยที่ใช้วิเคราะห์เรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันทางเศรฐกิจ ผมขอเรียกชื่อเล่นๆ ตั้งเองว่า "3 ขากล้าท้าโลก" 
      ประเด็นแรก คือ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง เป็นความท้าทายที่เราต้องตระหนักไปถึงกึ๋นเชิงนโยบายให้ได้ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยีมันเร็วมากกกเปรียบแล้วก็เป็นวินาทีเลยทีเดียว ฉะนั้นนโยบายการทำขายตรงในอาเซียนที่ไม่มีความยืดหยุ่นและแผนสำรองรองรับ ยากยิ่งนักที่จะต่อสู้บนเวทีระดับขายตรงอาเซียนหรือระดับโลกได้ ดังนั้นเราคงต้องมากล่าวขวัญถึง การบริหาร(ขายตรงอาเซียน)การเปลี่ยนแปลงให้มากขึ้น
    ประเด็นต่อมา คือเรื่่อง 3 ขากล้าท้าโลก ท่านกูรูฟิลิปได้วาง 3 ขา คือ -ขาการวางตำแหน่งสินค้า(Positioning),ขาแบรนด์ และขาความต่าง(diffirent)
    ขอเริ่มจาก การมองไปยังเรื่องของแบรนด์ มองให้ลึกไปถึงเรื่องความสามารถของการสร้างประสบการณ์ร่วมเพื่อให้ลูกค้าจดจำเราแบบอินสุดๆระยะยาวจนกว่าจะสิ้นลมจากกัน ฉะนั้นขายตรงอาเซียนคงต้องมาวางแผนการสร้างแบรนด์อย่างจริงจังสักที อย่าทำแค่โลโก้สวยๆ เว็บไซต์อลังการ์ สร้างตึกใหญ่ๆอีกเลย อันนั้นมันยังน้อยไป
   ขาที่สอง คือ เรื่องของการวางตำแหน่งของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะ ซึ่งขายตรงอาเซียนอย่างเราๆต้องพิจารณาให้เห็นถึงความแตกต่างของวัฒนธรรม วิถีชีวิต ของคนในประเทศต่างๆของอาเซียน มาพิจารณาแล้วปรับจูนสินค้าของตนเอง ให้ขายตรงอาเซียนอย่างเราเข้าไปยืนร่วมกับประชาชนอาเซียนได้อย่างสนิทใจ
  ขาที่ 3 คือ "ความต่าง" ความต่าง คือ ลมหายใจที่จะทำให้ขายตรงอาเซียนอยู่ได้ตราบนานเท่านาน ความต่างเป็นโจทย์ที่เราต้องเรียนรู้แบบไม่หยุดนิ่งกับคู่แข่งขายตรงอาเซียนอื่นๆที่ทำขายตรงระดับอาเซียน "ถ้าไม่ต่าง ก็ตายไปเลยดีกว่า" (จริงๆคำนี้เป็นคำภาษาอังกฤษผมจำไม่ได้แต่พอจำความหมายได้ เลยนำมาดับแปลงให้แรงๆหน่อย)
   3 ขากล้าท้าอาเซียน กล้าท้าโลกด้วย ที่กล่าวข้างต้นมีความสัมพันธ์เกื้อหนุนกัน ขาดขาใดขาหนึ่งไม่ได้ ฉะนั้นขายตรงอาเซียนทั้งหลาย เตรียมตัวให้พร้อม พร้อมกับ 3 ขาที่มั่นคงและความสำเร็จที่เป็นจริงได้ต่อไป
     
   

วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

หาจุดแข็งไปสู้แบบนักขายตรงระดับอาเซียน

     "ทุกคนมีดีในตัวที่แตกต่างกันไป หามันให้เจอและนำมันออกมาใช้ประโยชน์ รับรองว่าความสำเร็จเป็นเรื่องเล็ก"
      การเปิดตัวเองสู่ AEC นับว่าจะต้องใช้ฐานความรู้ที่มากพอในการเตรียมตัว เพราะด้วยความแตกต่างของวัฒนธรรม ประเพณี เศรษฐกิจ รวมถึงระบบการปกครองของประเทศใน AEC สิ่งสำคัญมากที่สุด คือ การหันกลับมามองตัวเอง ถามตัวเองว่า "ฉันพร้อมหรือยัง? ฉันรู้มากพอหรือยัง?ฉันเข้มแข็งพอหรือยังที่จะก้าวเข้าสู่ AEC?"
     กลับมามองแบบนักขายตรงอาเซียน มองมาที่ตัวเรา ให้ลึกไปถึงความถนัดที่ตนเองมีอยู่และมองไปยังจุดอ่อนที่เรายังต้องปรับปรุงเพื่อจะได้นำจุดแข็งไปต่อยอดและอุดช่องว่างที่เป็นจุดอ่อนของเรา เท่าที่ผมสังเกตผมมองว่าจุดแข็งของนักขายตรงไทยที่น่าสนใจมีหลายจุด ซึ่งสามารถนำไปต่อยอดสู่การทำขายตรงระดับอาเซียนได้ เช่น
   - ยิ้มสยามยังเป็นเสน่ห์-ผมมองว่าสิ่งนี้เป็นต้นทุนทางความรู้สึกที่คนไทยทำได้ดี และรอยยิ้มสยามย่อมจะนำสู่การเปิดประตูสู่การทำธุรกิจขายตรงระดับอาเซี่ยนได้เป็นอย่างดี
   - คนไทยเป็นคนง่ายๆ ชอบประนีประนอม สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศอาเซียนคู่ค้าสบายใจที่จะทำธุรกิจด้วยแบบสบายใจ
   - Hub แห่งอาเซี่ยน-ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ประเทศไทยเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นจุดเชื่อมต่อหรือ Hub ทางด้านธุรกิจ อย่างขายตรงระดับอาเซียนเช่นเดียวกัน ประเทศไทยสามารถที่จะยกระดับเป็น Hub แห่งขายตรงอาเซียนได้เช่นเดียวกัน
   - เครือข่ายแบบสังคมยังเหนี่ยวแน่น-ยอมรับอย่างหนึ่งว่าวัฒนธรรมไทยแบบพี่ป้า น้า อา ยังมีอิทธิพลและเป็นเครือข่ายแบบเหนี่ยวแน่น แพร่ออกไปทางวงกว้างซึ่งเป็นจุดแข็งหนึ่งที่จะทำให้ประเทศเพื่อนบ้านหันเข้ามาลงทุนหรือทำธรกิจขายตรงในประเทศไทย
  - ความมีน้ำใจแบบไทยๆ-ข้อนี้เป็นจุดแข็งหนึ่งที่ทำให้ประเทศในอาเซี่ยนอยากเข้ามาทำธุรกิจขายตรงกับคนไทย เพราะเชื่อมั่นว่าหากมีน้ำใจ มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันแล้วจะทำให้ขายตรงอาเซี่ยนสำเร็จได้อย่างแน่นอน
 - ประเทศไทยมีนักขายตรงระดับมืออาชีพที่มีชื่อเสียงดีๆ ที่จะดึงดูดให้ประชากรในอาเซียนหันมาทำขายตรงในประเทศไทย
    จุดแข็ง 6 ข้อนี้เป็นการมองภาพรวมให้เห็นสิ่งดีๆที่มีในไทยและสามารถนำจุดแข็งเหล่านี้ไปต่อ
ยอดเพื่อขึ้นสู่การทำขายตรงระดับอาเซี่ยนได้
    แล้วคุณละหาจุดแข็งของตนเจอหรือยัง?

เป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวของ
โทนี่-ภาสกร ผุยพงษ์
   

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

นักขายตรงอาเซียนทั้งหลาย....จงอย่าปิดกั้นตนเอง

ภาพจาก  http://www.muslimthaipost.com
         "เมื่อเข้าสู่ยุคอาเซียน มนุษย์ต้องเตรียมไว้ 3-4 อาชีพ ไม่มีใครเป็นนักบัญชี นักธุรกิจ หรือนักบริหารตลอดชีวิต การเตรียมคนเพื่อทำอาชีพเดียวจึงไม่เพียงพอ ไม่ทันต่อโลกาภิวัฒน์ที่ต้องเป็นมัลติทาสกิ้ง"
                -- สุรินทร์ พิศสุวรรณ -- เลขาธิการอาเซียน (อ้างอิงจาก  อเดย์บูราติน แชร์จาก facebook อีกทีครับ)

    ข้อความข้างต้น ผมอยากจะขีดเส้นใต้สัก สองเส้นเน้นหนาๆ ชอบมากครับ และเมื่อคิดทบทวนดูแล้ว มันเป็นไปตามนั้นจริงๆด้วย 
     มองย้อนกลับไปตั้งแต่ผมยังแบเบาะ เติบโตขึ้นมาผ่านการศึกษาตามระบบประเทศไทยแป๊ะๆ ไม่เคยมีคำถามอะไรมากมายนัก (ครูเขาไม่ค่อยเปิดโอกาสให้ถามครับ) มุ่งร่ำเรียนตามสิ่งที่ใฝ่ฝันอย่างที่ครูแนะแนว แนะนำ ระบบความคิดแบบตามสูตร เราอยู่บนสานพานมนุษย์ โรงงานผลิตอะไรเราต้องเป็นไปแบบนั้น จนจบก็ได้ทำงานตรงสาย ผ่านไป 10 ปีมีคำถามใหม่มากมายเกิดขึ้นในหัว (ไม่รู้ทำไมว่าผ่านไป 10 ปียังมีคำถามกับชีวิตอยู่ตลอด) คำถามสำคัญที่น่าจะนำมาใช้ในบทความได้ดี คือ จำเป็นด้วยหรือที่เราต้องเลือกชีวิตเราแบบงงๆ แล้ว ทำไปก็เริ่มมีข้อสงสัย นักกว่านั้น คือ ทำไปก็ไม่มีความสุข เราจะยังดันทุรังทำไปจนตาย"  ด้วยคำถามนี้ละ ที่ทำให้ผมทุบกะลาตัวเองออกแล้วพาตัวไปประสบกับประสบการณ์ใหม่ๆได้

    สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจเข้าสู่วงการขายตรงหลังจากทุบกะลาตนเองออกมาแล้ว คือ เรื่องที่เราได้อยู่กับงานที่ต้องเรียนรู้ พัฒนาตนเองตลอด ได้สร้างระบบ วินัย ของตนเองได้แบบ 100% มองย้อนกลับไปเราเคยสร้างกำแพงแห่งความเคยชิน กำแพงแห่งการกลัวเกรงกับการเปลี่ยนแปลงกั้นขวางตัวเองจนคิดว่า เราไม่ต้องเรียนรู้อะไรเพิ่มเติมแล้ว เราเรียนอะไรมา ต้องทำงานแบบนั้น แต่ไม่เคยถามตัวเองเลยว่า เราชอบมัน เราถนัดมัน เราทำแล้วมีความสุข จริงหรือเปล่า?

    จริงๆแล้ว คำว่า อาชีพโน่นนี้นั้น มันคือสิ่งสมมติที่มนุษย์สร้างขึ้นมา แต่มันไม่ใช่สิ่งที่จะมาปิดกั้นให้เราต้องเป็นไปอย่างนั้นไปจนตายหรอกครับ โชคดีขนาดไหนที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ แต่เราชอบลืมกันว่า โชคดีไปกว่านั้น คือ เราคือมนุษย์ที่เลือกวิถีทางชีวิตตนเองได้

     อย่างอาชีพธุรกิจเครือข่ายขายตรง ก็ถือเป็นอาชีพหนึ่งที่สร้างให้เราต้องเก่งรอบด้าน ไม่ได้ปิดกั้นให้เราเก่งแค่ทางใดทางหนึ่ง หากอยากสำเร็จในวงการก็ต้องเสริมสร้างทักาะ ต่างๆ เช่น ภาวะผู้นำ ทักษะการตลาด ทักาะการขาย การสื่อสาร ทักษะการบริการ  การครองใจคน และทักาะอื่นๆอีกมากมาย  เหมือนกับเราต้องมีกันหลายๆอาชีพในตัวของเราจึงจะส่งเสริมความสำเร็จของตนได้

    จงอย่าปิดกั้นตนเอง เพียงแต่ว่าคนอื่นหรือความคิดเดิมๆทำให้เราเป็นอย่างนั้น แต่จงทุบกะลาตัวเองออกมา ให้โอกาสตัวเองได้เจอกับสิ่งใหม่ๆ เพื่อที่จะได้เจอกับสิ่งที่ใช่สำหรับคนจริงๆ แล้ววันน้นจะเป็นวันที่คุณตายตาหลับแน่นอน

ข้อคิดเห็นส่วนตัวของ
โทนี่  ภาสกร  ผุยพงษ์

www.richtimeteam.com
www.richtimeexpo.com